การเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ก่อนที่ลูกๆ จะเข้าโรงเรียนพ่อแม่ฝรั่งจะสอนลูกให้ช่วยเหลือตัวเอง ตั้งแต่เด็ก ใส่เสื้อผ้าเอง ตื่นขึ้นมาเก็บที่นอน ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมพร้อมเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในแต่ละวัน การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งทำให้เด็กมีความเป็นผู้นำสูง กล้าคิด กล้าตัดสินใจ พวกเขาออกทำงานตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งการเลี้ยงลูกแบบฝรั่งมีความแตกต่างกันอย่างมากในการเลี้ยงดูลูกของคนไทย แต่เรื่องการเลี้ยงลูกแบบไหนดีหรือไม่ดีไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ทั้งหมด ในบทความนี้จะมาพูดถึงเทคนิคและผลของการเลี้ยงลูกแบบฝรั่งว่ามีข้อดีอย่างไรบ้าง ที่คุณพ่อคุณคนไทยอย่างเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเลี้ยงลูกได้ไม่มากก็น้อย

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง เลี้ยงแบบไหน

การมีลูกคือหนึ่งในวาระสำคัญของชีวิต เป็นงานที่ไม่เคยมีคำว่าสบายและสิ่งที่ท้าทายคือ จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ดีอย่างที่พ่อแม่คาดหวัง พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี ฉลาด มีความสุข มีอนาคตสดใส ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกินกว่าครึ่งหนึ่งของอนาคตลูกอยู่ในมือของพ่อแม่ที่จะเป็นผู้กำหนดนำพาชีวิตลูกให้เป็นไปในทิศทางไหน เพราะการที่เด็กจะมีบุคลิกลักษณะนิสัยใจคออย่างไร ซึ่งมีส่วนที่จะกำหนดอนาคตของเด็กได้ คงหนีไม่พ้นรูปแบบในการเลี้ยงดูและการสนับสนุนจากพ่อและแม่

พ่อแม่แต่ละบ้านต่างก็มีแนวทางในการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันออกไปตามขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมที่แต่ละครอบครัวยึดถือปฏิบัติ แต่ว่ากันว่าการเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ยุโรปหรืออเมริกา มักให้อิสระแก่ลูกค่อนข้างสูง ปล่อยให้ลูกคิดเองทำเอง จนบางครั้งพ่อแม่คนไทยอาจรู้สึกว่าการเลี้ยงลูกแบบฝรั่งไม่ใช่แนวทางของเรา

พ่อแม่ฝรั่งจะปล่อยให้ลูกทำด้วยตัวเอง

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งเขาจะสอนลูกเสมอว่า พ่อแม่ไม่สามารถปกป้องหรือตามไปดูแลเทคแคร์ลูกได้ตลอดไป พวกเขาต้องช่วยเหลือตนเอง เด็กจะมีหน้าที่รับผิดชอบเบื้องต้นในบ้าน และเรียนรู้ทุกวันเด็กจะสนุกกับกิจกรรมนั้นๆ ด้วยตัวอย่างเช่น เด็กที่อายุ 2-3 ขวบต้องช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ใส่เสื้อผ้าเอง ใส่รองเท้าเอง กินข้าวเองไม่ป้อน และอาบน้ำเอง ดูแลตัวเองได้เบื่อต้น

พอ 4-5 ขวบให้อาหารปลา ดูแลสัตว์แทคแคร์สัตว์เลี้ยง ให้มีจิตรใจดีดูแลเห็นอกเห็นใจสัตว์ทั้งหลาย และ 7 ขวบรดน้ำต้นไม้ดูแลสวน เปรียบเสมือนการแทคแคร์ดูแลเอาใจใส่

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งในครอบครัวมีการแบ่งหน้าที่ให้มีความรับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจคนในครอบครัว เห็นแม่ถือของหนักสอนให้ลูกเห็นใจคนอื่น  เช่น แม่คะให้หนูช่วยถือของไหมคะ รับผิดชอบช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เมื่อเด็กทำเศษอาหารตกพื้น การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งพ่อแม่จะสอนให้เด็กจะทำความสะอาดเอง สอนให้เด็กรู้ว่าแม่ทำความสะอาดบ้านเหนื่อยแค่ไหน สอนให้รับผิดชอบในส่วนที่ตัวเองทำ ถ้าไม่สอนตั้งแต่ยังเด็ก เด็กจะติดนิสัยแล้วตอบว่าไม่เคยทำ ไม่อยากทำ ฉะนั้นควรปลูกฝังตังแต่ยังเด็กๆ เขาจะเข้าใจและปฎิบัติตามและโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ

ไม่บงการชีวิตลูกแต่สนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบ

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งเมื่อพ่อแม่รู้ว่าลูกชอบอะไรจะสนับสนุนลูกๆ อย่างเต็มที่ เขาจะไม่บอกว่าลูกต้องเรียนแบบนี้นะ ต้องทำแบบนี้นะ แต่การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งพ่อแม่จะมองว่าลูกมีความสามารถด้านไหน ถ้าลูกชอบวาดรูปพ่อแม่จะหาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดรูปมาให้ แต่ถ้าเขาชอบว่ายน้ำจะพาไปเรียนว่ายน้ำ หรือชอบการร้องเพลงสนับสนุนเด็กให้เต็มที่ตามที่เด็กถนัด เด็กทุกคนมีพรสวรรค์ มีความสามารถที่แตกต่างกัน การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งทำให้เด็กได้เรียนรู้หลายๆ อย่างเพื่อจะได้รู้ว่าเขาชอบทำสิ่งไหน ค้นหาความชอบและความถนัด

พ่อแม่ฝรั่งส่วนมากวันจันทร์ถึงศุกร์จะไม่ค่อยมีเวลาให้กันเยอะ แต่การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์พวกเขาจะทำกิจกรรมร่วมกัน ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน และตอนเย็นจะทำอาหาร หรือมีปาร์ตี้ บาบีคิว ทำป๊อบคอน ทำอาหารอร่อยๆ กินและเปิดทีวีดูร่วมกัน พาครอบครัวออกไปเที่ยวกิจกรรมเพิ่มความอบอุ่นให้ครอบครัว

เด็กฝรั่งจะมีกิจกรรมเสมอ

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งในวัยเด็ก พ่อแม่จะไม่ปล่อยให้เด็กๆ มีเวลาว่าง จะหากิจกรรมให้ลูกทำอยู่เสมอในช่วงปิดเทอม เช่น เด็กผู้ชายจะเรียนฟุตบอล เล่นกีต้า ว่ายน้ำ ยิงธนู เปียโน ส่วนเด็กผู้หญิง เรียนว่ายน้ำ เปียโน ร้องเพลง บัลเล่ห์ เด็กฝรั่งส่วนมากจะกิจกรรมเยอะมากๆ จนกลายเป็นวัฒนธรรมองเขาไปแล้ว ส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรม จะไม่มีเวลาว่าไปทำในสิ่งที่ไม่ดี

กล้าพูด กล้าแสดงความคิด มีเหตุผล และรู้จักขอโทษ

ไม่ว่าคนไทยหรือฝรั่ง เด็กทุกประเทศร้องไห้งอแงเหมือนกันหมด แต่การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งเขาจะมีเหตุผลจะถามลูกว่าเหนื่อยเหรอ หรือหิว ลูกเป็นอะไร หากลูกไม่พูดออกมาพ่อแม่จะไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกต้องการ การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งจะสอนให้ลูกกล้าที่จะพูดแสดงความรู้สึกออกมาแต่แต่เด็ก และเป็นตัวเองให้มากที่สุด

เมื่อเด็กโตขึ้นมาพวกเขาจะกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าพูด กล้าตอบ กล้าที่จะขอโทษเมื่อทำผิด น่ารักอ่อนหวานเห็นออกเห็นใจคนอื่นได้ แต่ต้องแข็งแกร่งด้วย ถ้าเราไม่กล้าแสดงจุดยืนของตัวเอง ก็อาจจะถูกข่มเหงรังแกได้ง่ายๆ

มีการตัดสินใจที่ดี

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งจะสอนให้หาเงินด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก หากอยากได้อะไรแพงๆ ต้องเก็บเงินซื้อเอง เช่น ลูกอยากได้ของเล่นหุ่นยนต์ แม่จะถามว่าเขาแน่ใจหรือไม่ หากซื้อมาแล้วจะไม่เสียใจใช่ไหมหากมีรุ่นใหม่ๆ ออกมา เมื่อเขาซื้อไปแล้วต้องแทคแคร์เป็นอย่างดี แต่เมื่อลูกซื้อไปแล้วกลับมีรุ่นใหม่ที่เจ๋งกว่านี้อีก เขาอยากได้รุ่นใหม่แต่เงินในกระเป๋าหมด การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งจะสอนให้รู้ถึงการตัดสินใจ หากลูกอยากได้ของเล่นต้องเก็บเงินใหม่อีกครั้ง กว่าจะได้ของแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน และมีการตัดสินใจที่ดี เมื่อมีแล้วดูแลรักษาของให้ดีที่สุด

เด็กฝรั่งจะมีความเห็นใจ

การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งในวัยเด็กจะสอนให้เห็นใจอีกคน หากเด็กผู้ชายจะสอนความเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ส่วนเด็กผู้หญิงจะสอนให้พึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เช่น หากมีเพื่อนข้างๆ ห้องจะไม่ส่งเสียงดัง รบกวนผู้อื่น หากมีกิจกรรมที่จะต้องส่งเสียงดังพวกเขาจะให้เบอร์โทร หากพวกเขาส่งเสียงดังเกินไปให้โทรบอก พวกเขาจะเงียบ และหยุดกิจกรรมทันที มีความเกร็งใจอีกคนสุดๆไปเลย

บทสรุป

เทคนิคการเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง คุณพ่อคุณแม่สามารถนำบางเทคนิคมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงลูกของเราบ้างได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางในการเลี้ยงลูก การสอนที่เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง มีอิสระทางความคิดตัดสินใจให้เขามีโอกาสพบเจอและเรียนรู้โลกกว้างด้วยตัวเอง ที่พ่อแม่พร้อมที่จะสนับสนุน ให้ความปลอดภัย ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลดีในการพัฒนาสมองและสร้างเสริมประสบการณ์ในชีวิต ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ลูกได้พัฒนาทักษะความฉลาดที่รอบด้านด้วย Power BQ ในด้านต่างๆ มากมาย อาทิ ความฉลาดในการเล่น PQ , ความฉลาดต่อการเผชิญกับปัญหา AQ  , ความฉลาดในการคิดเป็น TQ และ ความฉลาดของการเข้าสังคม SQ

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก

• เป็นหนุ่มสาวก่อนวัย คืออะไรและสามารถรักษาได้อย่างไร
• กัดเล็บ ควรแก้พฤติกรรมลูกก่อนติดนิสัยไปจนโต
• เล่นไม่เลิก มีวิธีการรับมือกับลูกได้อย่างไร
• โพสต์รูปลูก อย่างไรให้ปลอดภัย
• สปอยล์ลูก มากเกินไป เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรเลี่ยง
• เลี้ยงลูกเชิงบวก คืออะไร และมีเทคนิคอย่างไรบ้าง

ที่มาของบทความ

• https://cutiegirl.cc
• https://www.amarinbabyandkids.com 
• https://www.pexels.com 
• https://www.pexels.com/